คิดให้ดีก่อนจัดฟัน
- ZeeRyCool
- 10 ส.ค. 2562
- ยาว 1 นาที
อัปเดตเมื่อ 14 ส.ค. 2562
รอยยิ้ม ถือเป็นเสน่ห์ที่เปรียบเสมือนอาวุธที่ใช้มัดใจใครต่อใครหลายคน ซึ่งรอยยิ้มที่สวยงามก็จะต้องเกิดมาจากฟันที่สวยงามด้วยเช่นกัน
ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับฟัน เช่น ฟันหลอ ฟันกระต่าย ฟันซ้อน ฟันเก จึงพยายามหาวิธีในการแก้ไขรูปฟันให้ดูสวยงามมากขึ้น ซึ่งวิธีที่นิยมกันอย่างมาก ก็คือ ?การจัดฟัน? นั่นเอง
การจัดฟันถือเป็นวิธีการแก้ไขปัญหาความผิดปกติในช่องปาก รวมถึงการแก้ไขความสัมพันธ์ที่ผิดปกติของขากรรไกรบนและล่าง เพื่อทำให้การบดเคี้ยวทำได้ดีขึ้น ทำความสะอาดฟันได้ง่ายขึ้นและสร้างบุคลิกภาพที่ดี

ภาพจาก : http://www.rukfun.com/orthodontics
ผู้ที่ตัดสินใจแล้วว่าจะใช้วิธีการดัดฟันเพื่อแก้ไขปัญหาในช่องปากจะต้องปรึกษาทันตแพทย์ให้ดีอย่างละเอียดเสียก่อน รวมทั้งจะต้องมีความรับผิดชอบในการดูแลรักษาความสะอาดของเหงือกและฟันให้มากขึ้น งดอาหารประเภทกรอบ แข็ง หรือเหนียวจนเกินไป ใส่เครื่องมือเสริมต่างที่แพทย์แนะนำ และมาพบแพทย์อย่างต่อเนื่องตามช่วงเวลาที่นัดไว้
ซึ่งระยะเวลาการจัดฟันก็ขึ้นอยู่กับลักษณะฟันตั้งต้นของผู้จัด และความร่วมมือรวมถึงการดูแลเอาใจใส่ของแต่ละบุคคล นอกจากนี้ภายหลังจากการดัดฟันเสร็จแล้วก็จะต้องหมั่นใส่เครื่องมือคงสภาพ (retainer) ไปโดยตลอด เพื่อป้องกันไม่ให้ฟันล้มและเป็นเหตุให้ต้องมาจัดฟันซ้ำใหม่อีกครั้ง
จะเห็นได้ว่า การจัดฟันเริ่มเป็นที่แพร่หลาย และได้รับความนิยมอย่างสูงในหมู่เด็กวัยรุ่น ที่บางครั้งไม่ได้จัดฟันเพื่อแก้ไขปัญหาความผิดปกติในช่องปาก แต่ทำไปเพื่อตามแฟชั่นเท่านั้น และหากขาดการดูแลความสะอาดที่ดี แปรงฟันไม่สะอาด ก็จะส่งเสียตามมา เช่น การเกิดฟันผุ เหงือกอักเสบ ฟันด่าง เป็นต้น
ที่ต้องระมัดระวังเพิ่มเติมก็คืออันตรายจากการใช้ลวดจัดฟันที่ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งผลิตขึ้นมาเพื่อความสวยงามเพียงเท่านั้น ลวดประเภทนี้ผลิตขึ้นเพื่อเลียนแบบลวดจัดฟันของจริงของทันตแพทย์ ซึ่งมีโอกาสสูงต่อการติดเชื้อเนื่องจากลวดขึ้นสนิม
การมีฟันที่เรียงสวยตามธรรมชาติและไม่มีความผิดปกติของขากรรไกรจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องจัดฟันเพิ่มเติม เพราะไม่ใช่แค่ค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงเพียงเท่านั้น แต่ยังต้องเพิ่มการดูแลเอาใจใส่ให้มากขึ้นอีกเป็นเท่าตัว
อย่างไรก็ตามหากคุณเป็นคนที่มีปัญหาทางช่องปาก การจัดฟันก็ถือเป็นทางออกที่ดีทางหนึ่งเพียงแต่ต้องปรึกษากับทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่น่าเชื่อถือให้ดีเสียก่อนเท่านั้นเอง
ขอขอบคุณ
ข้อมูลจาก https://www.สุขภาพน่ารู้.com
Comments